Categories
บทความ

7 สิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อบ้านสำหรับชาวออฟฟิศ

7 สิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อบ้านสำหรับชาวออฟฟิศ

การกู้ซื้อบ้าน

ขึ้นชื่อว่า ‘บ้าน’ เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากจะมีเป็นของตัวเองให้ได้สักหลัง เพราะนอกจากจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว บ้านยังเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย รวมทั้งยังสามารถเป็นสินทรัพย์ที่ทำเงินได้ในอนาคตอีกด้วย เอาเป็นว่ามาลองดู 7 สิ่งที่ควรรู้สำหรับชาวออฟฟิศที่วางแผนซื้อบ้านกันดีกว่า

สารบัญ : 7 สิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อบ้านสำหรับชาวออฟฟิศ

1. คำนวณดูว่าสามารถกู้ได้ประมาณเท่าไร

ก่อนอื่นเลยให้ลองคำนวณกันดูก่อนว่า คุณจะสามารถกู้เงินได้ในอัตราประมาณเท่าไร ซึ่งก็จะมีสูตรในการคำนวณอย่างคร่าว ๆ คือ (รายได้ต่อเดือน) x (60 เท่าของรายได้) = (ราคาบ้านที่กูซื้อได้) ยกตัวอย่างเช่น เงินเดือน 20,000 บาท x 60 เท่า = 1,200,000 บาท ซึ่งนี่ก็คือยอดที่จะสามารถกู้ได้จากการคำนวณ และเป็นจำนวนเงินที่ยังไม่ได้มีการหักลบจากภาระหนี้สินอื่น ๆ เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบัตรเครดิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางธนาคารจะมีการปรับขยับเพิ่ม หรือลดเพิ่มอีกครั้ง จากการคำนวณด้วยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาของธนาคารอีกทีด้วย

2. ต้องมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งด้วย

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการพิจารณาของทางธนาคารก็คือ วินัยทางการเงินของผู้กู้ เพราะหากคุณเป็นคนที่มีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง โอกาสในการพิจารณาอนุมัติเงินกู้สำหรับซื้อบ้าน ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่การนำเงินเก็บจำนวนหนึ่ง มาใช้เป็นเงินดาวน์ เพื่อลดระยะเวลา และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็จะเพิ่มโอกาสในการได้บ้านในฝันง่ายขึ้นนั่นเอง

3. เตรียมบัญชีธนาคารให้สวยไว้ก่อน

ในการยื่นกู้นั้น ทางธนาคารก็จะมีการพิจารณาจากบัญชีเงินฝากย้อนหลังด้วย ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะพิจารณาจากช่วงระยะเวลา 6 เดือนย้อนหลัง ซึ่งหากเป็นไปได้ ในช่วง 6 เดือนนี้เจ้าของบัญชีจะต้องมียอดการโอน-ถอนที่ชัดเจน และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีการถอนจนหมดบัญชีอยู่เสมอ หรือหากใครที่มีรายได้เสริม ก็พยายามให้รายได้เหล่านั้นโอนเข้าบัญชีสำหรับการกู้เงินไว้ก่อนดีที่สุด

4. ปิดบัญชีหนี้สินให้หมด หรือเหลือน้อยที่สุด

สำหรับใครที่มีบัญชีหนี้สินอยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่จะกู้เงินซื้อบ้านผ่านก็จะลดน้อยลง ซึ่งทางธนาคารจะเลือกอนุมัติให้กับคนที่มีบัญชีหนี้สินอยู่น้อย หรือไม่มีเลยมากกว่า เพราะฉะนั้นหากคิดจะวางแผนซื้อบ้านแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะพยายามปิดหนี้สินให้มากที่สุด หรืออย่างน้อยก็อาจจะเหลือเพียงแค่บัญชีที่มีหนี้อยู่เล็กน้อย และผ่อนต่อเดือนในอัตราที่ไม่สูงเกินไป

5. หากมีหนี้ ต้องชำระหนี้ให้ตรงอยู่เสมอ

อีกหนึ่งหัวใจที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสกู้เงินซื้อบ้านก็คือ ต้องพยายามชำระหนี้ให้ตรงเวลาอยู่เสมอ เพราะทางธนาคารจะมีการตรวจสอบ ‘เครดิตบูโร’ ของผู้กู้ด้วย โดยจะทำการตรวจสอบย้อนหลังประมาณ 2 ปี ซึ่งถ้าหากในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีการชำระหนี้ที่เรียกได้ว่า ตรงเวลามาโดยตลอด ก็จะเป็นการสร้างเครดิตให้กับผู้กู้ ซึ่งแน่นอนว่า โอกาสที่จะได้กู้ผ่านตามที่หวังไว้ก็มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว

6. พยายามปิดบัตรเครดิตไปบ้าง

แน่นอนว่าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศแล้ว การมีบัตรเครดิตติดตัวไว้ จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับการใช้จ่ายได้มากทีเดียว แต่สำหรับบางคนแล้ว ก็ยึดติดในเรื่องของการใช้จ่ายบัตรเครดิตมากจนเกินไป จนเรียกได้ว่ามีบัตรเครดิตติดกระเป๋ามากกว่า 3 ใบ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ธนาคารมองว่าคุณเป็นคนที่ใช้จ่ายสูง หรือเกินจากรายรับได้ และก็ทำให้การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ของคุณ ลดลงไปด้วย ทางที่ดีแล้ว ควรจะปิดบัตรเครดิตออกไปบ้าง เมื่อต้องกู้เงินในการซื้อบ้าน หรือหากต้องมีติดตัวไว้ ก็ไม่ควรที่จะเกิน 1-2   ใบ เท่านั้น

7. เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม

ข้อสุดท้าย ที่เรียกว่าเป็นวิธีกู้ซื้อบ้านที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญก็คือ ศึกษาข้อกำหนด และเงื่อนไขของทางธนาคาร รวมทั้งเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน หรือหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของรายได้พิเศษต่าง ๆ ซึ่งการเตรียมหลักฐานมาครบถ้วน และพร้อมในการยื่นกู้ จะช่วยให้ได้รับการพิจารณาที่รวดเร็ว และง่ายขึ้น ที่สำคัญคือไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหา หรือจัดเตรียมเอกสารจนรู้สึกว่ายุ่งยากเกินไปด้วย ฉะนั้นเตรียมให้พร้อมก่อนยื่นกู้ดีที่สุด

สรุป

ทั้ง 7 ข้อนี้ก็เป็นวิธีซื้อบ้าน ที่เรียกได้ว่าชาวออฟฟิศทุกคนต้องทราบ รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะการที่จะมีบ้านสักหลัง ไม่ใช่เพียงแค่พร้อมในเรื่องของการมีรายได้สำหรับผ่อนบ้านเท่านั้น แต่เอกสารและการติดต่อกู้ยืมจากธนาคารก็เป็นสิ่งสำคัญที่ จะช่วยสร้างโอกาสในการได้บ้านในฝันได้ดีที่สุดเช่นเดียวกัน

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ

Categories
บทความ

9 วิธีซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน

9 วิธีซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน

วิธีการเลือกซื้อคอนโด

คอนโดนับว่าเป็นอีกหนึ่งที่อยู่อาศัย ที่เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันมากทีเดียว นั่นก็เพราะทำเลของคอนโดส่วนใหญ่ จะมีความสะดวกสบายในเรื่องของการเดินทาง รวมทั้งยังมีแหล่งช้อปปิ้งอย่าง ห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารมากมาย แต่การที่จะซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน ก็มีสิ่งสำคัญที่ควรทราบเช่นเดียวกัน ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีเรื่องไหนกันบ้าง

สารบัญ : 9 วิธีซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน

1. พิจารณาจากทำเลเป็นอันดับแรก

เหนือสิ่งอื่นใดเลย ในการคิดจะซื้อคอนโดแล้ว สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเอาไว้ก่อนเลยก็คือ เรื่องของทำเลที่ตั้ง เพราะคอนโดที่จะช่วยสร้างความรู้สึกสบายใจ และสามารถอยู่ได้นานก็คือ คอนโดที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน หรืออยู่ใกล้กับเส้นทางเดินรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น BTS หรือ MRT ก็ตาม ลองมองภาพรวมไกล ๆ ว่าหากต้องทำงานที่เดิมยาว ๆ การมีเส้นทางในการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และง่าย จะช่วยสร้างความสุขให้กับการทำงานได้ดีกว่า

2. เข้าไปดูถึงโครงการด้วยตัวเอง

แม้ว่าจะเลือกซื้อคอนโดที่มาจากโครงการชั้นนำ หรือเป็นที่รู้จักมากแค่ไหน ก็ไม่ควรที่จะตัดสินจากการเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นโครงการที่เพิ่งเปิดใหม่ หรือยังขายไม่หมด ก็ควรจะเดินทางไปสำรวจดูโครงการด้วยตัวเอง ทั้งรูปแบบห้องพัก หรือทำเลพื้นที่ใกล้เคียง

3. การเลือกห้องก็สำคัญ

เมื่อต้องทำการเลือกห้องพัก สิ่งสำคัญก็คือ ต้องคำนึงถึงว่าการนอนในคอนโดนั้นจะมีผู้ร่วมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งคอนโดหลาย ๆ ที่ก็ยังอยู่ใกล้กับพื้นที่สัญจร ทำให้มีเรื่องของมลภาวะรบกวนได้เช่นเดียวกัน ควรเลือกห้องพักที่อยู่สูงกว่าชั้นที่ 1-2 เพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะที่รบกวน และห้องนอนไม่ควรที่จะอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนในเวลาพักผ่อนนั่นเอง

4. วางแผนทางการเงินให้ดี

เพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณาสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้อง กู้เงินจากทางธนาคาร สิ่งสำคัญก็คือ ควรจะวางแผนการเงิน และมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง เพื่อใช้เป็นเงินดาวน์ในการซื้อคอนโด ซึ่งการวางแผนนี่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้เงินได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือยังสามาถดาวน์ในราคาที่คุ้มค่า และผ่อนต่อเดือนเป็นจำนวนเงินที่น้อยลงด้วย โอกาสที่จะปลดหนี้คอนโดให้หมดเร็วขึ้นก็ตามมา

5. พิจารณาสิทธิและโปรโมชั่นของแต่ละโครงการ

หากต้องเลือกซื้อคอนโดจากหลายโครงการแล้วล่ะก็ ให้พยายามมองหาโครงการที่มีสิทธิประโยชน์ หรือความคุ้มค่าจากโปรโมชั่นมาใช้ประกอบการพิจารณา เพราะสิทธิประโยชน์เหล่านี้ จะช่วยให้การซื้อคอนโด้รับความคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งโปรโมชั่นที่ว่านี้ก็มี ทั้งของแถมที่อาจมาในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ หรือผ่อนชำระแบบไม่มีดอกเบี้ยจำนวน 10 เดือน เป็นต้น รวมทั้งโปรโมชั่นอยู่ฟรีไม่ต้องผ่อนตามระยะเวลากำหนดของแต่ละโครงการอีกด้วย

6. เตรียมเงินให้พร้อมสำหรับค่าจอง

สำหรับใครที่มาถึงขั้นตอนของการ จองห้องเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับจำนวนเงินที่จะใช้ในการจ่ายค่าจองด้วย ซึ่งในแต่ละโครงการอาจจะมีค่าจองที่ต่างกันออกไป แต่จะอยู่ระหว่าง 5,000 – 50,000 บาท รวมทั้งบางแห่งก็ยังมีในส่วนของค่าทำสัญญาอีกด้วย โดยค่าทำสัญญานั้นจะมีอยู่ที่ระหว่าง 50,000 – 100,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าของแต่ละโครงการด้วย

7. ห้องรีเซลก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ในแต่ละโครงการ จะต้องมีห้องที่เรียกว่า ห้องรีเซล ซึ่งมันก็คือห้องที่เจ้าของมักจะไม่พร้อมในการโอน อาจจะด้วยภาระค่าใช้จ่าย หรือปัญหาส่วนตัว ทำให้ห้องรีเซลเหล่านี้ ถูกขายต่อในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม ทำให้มีโอกาสที่จะได้อยู่ในคอนโดที่ชอบ โครงการที่ใช่ ในราคาที่คุ้มค่ากว่า โดยทั่วไปแล้ว ห้องรีเซลมักจะมีมากในโครงการที่มีการสร้างเสร็จแล้ว และมียอดจองเต็มแล้วนั่นเอง

8. ใช้วิธีกู้เงินเมื่อใกล้ถึงวันโอน

สำหรับช่วงเวลาที่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ และยังไม่พร้อมโอนให้กับเจ้าของห้อง ให้ทำการผ่อนดาวน์ไปก่อน โดยการผ่อนดาวน์นี่จะต้องผ่อนชำระพร้อมกับการจ่ายค่าทำสัญญา และค่าจอง ซึ่งมูลค่าก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ แต่เมื่อโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ พร้อมโอนแล้ว ให้ทำการกู้เงินหรือจ่ายเงินสดตามจำนวนได้เลย จะช่วยให้คุ้มค่ากว่าในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยได้

9. อย่าลืมตรวจสอบห้องก่อนโอน

เหนือสิ่งอื่นใด ทางเจ้าของห้องก็ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบห้องให้เรียบร้อย ก่อนที่จะทำการโอน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะดูว่ามีจุดไหน ส่วนใด ภายในห้องที่ไม่สมบูรณ์ หรือผิดไปจากแบบหรือไม่ เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่า เมื่อเข้าพักอาศัยแล้วจะไม่มีข้อผิดพลาดมากวนใจเจ้าของห้อง หรือต้องเสียเงินเพิ่มเติมในการปรับปรุงห้องในอนาคตนั่นเอง

สรุป

ทั้ง 9 ข้อนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่เรียกได้ว่าคนอยากมีคอนโด ‘ต้องรู้’ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุดในการเลือกซื้อคอนโดแล้ว ยังเป็นผลดีที่จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับคอนโดได้ในอนาคต คราวนี้ไม่ว่าจะปล่อยเช่า หรือขาย ก็ได้ราคาที่สูงกว่าเดิมอย่างแน่นอน

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ