Categories
บทความ

10 ขั้นตอนในการเลือกรถที่ใช่สำหรับคุณ

10 ขั้นตอนในการเลือกรถที่ใช่สำหรับคุณ

วิธีการเลือกรถ

หากคุณเพิ่งซื้อรถหรือไม่ได้ซื้อมาหลายปีอาจเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าจะเริ่มต้นที่ไหน คุณจะหารถที่ตรงกับความต้องการของคุณในอีกหลายปีข้างหน้าได้อย่างไร? ใช้เวลาในการวิจัยและวางแผนเพียงเล็กน้อย เมื่อคุณทราบประเภทรถที่คุณต้องการแล้วคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณต้องการซื้อรถใหม่เช่ารถใหม่หรือซื้อรถมือสอง

สารบัญ :

1. ประเมินความต้องการของคุณ

“รถที่ใช่” ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นใครและคาดหวังอะไรจากรถยนต์ พวกเราบางคนชอบแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรถยนต์ของเรา (“ฉันรวยและมีสไตล์” หรือ “ฉันรักษ์โลกและย้อนยุค”) บางคนชอบออกไปขับรถที่มีชีวิตชีวาในวันหยุดสุดสัปดาห์ (“ขอแรงม้าเพิ่มและเครื่องยนต์เสียงดัง”) ในกรณีดังกล่าวการใช้งานจริงมักจะใช้เบาะหลังเพื่อให้คุณรู้สึกอย่างไร

แต่สำหรับผู้ที่ต้องการยานพาหนะสำหรับหน้าที่ประจำวันการทำงานควรมีแฟลช ข้อควรพิจารณาบางประการที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้

– คุณต้องบรรทุกผู้โดยสารกี่คน?

– คุณขับรถประเภทไหน? ส่วนใหญ่เป็นทางหลวงพื้นผิวถนนออฟโรดหรือไม่?

– คุณมีการเดินทางที่ยาวนานและด้วยเหตุนี้การประหยัดน้ำมันจึงสำคัญสำหรับคุณหรือไม่?

– คุณต้องการระบบขับเคลื่อนทุกล้อหรือไม่?

– คุณสมบัติที่คุณต้องมีคืออะไร? 

– คุณลักษณะด้านความปลอดภัยใดที่สำคัญสำหรับคุณ

– คุณจะใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กหรือไม่?

2. กำหนดงบประมาณของคุณ

หากคุณไม่ได้จ่ายเงินเป็นเงินสดสำหรับรถของคุณคุณจะต้องคิดเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนสำหรับการซื้อหรือเช่าของคุณ คุณสามารถจัดสรรค่าผ่อนรถได้เท่าไหร่ในแต่ละเดือน? กฎทั่วไปคือค่าผ่อนรถใหม่รายเดือนของคุณไม่ควรเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ของค่าผ่อนบ้านรายเดือน รถมือสองจะมีราคาไม่แพง แต่ควรใช้กฎเดียวกัน หากคุณต้องการเช่าให้ตั้งเป้าหมายการชำระเงินรายเดือนที่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของค่าตอบแทนกลับบ้าน นอกจากนี้คุณยังต้องคำนึงถึงรายได้ต่อเดือนอีก 7 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ครอบคลุมค่าน้ำมันและค่าประกัน การรู้งบประมาณของคุณล่วงหน้าจะช่วยคุณในการเจรจาต่อรองรถยนต์หรือรถบรรทุกคันต่อไป

ไม่แน่ใจว่ายานพาหนะประเภทใดที่อยู่ภายใต้การชำระเงินรายเดือนนี้ ดูเครื่องคำนวณความสามารถในการจ่ายได้ของ Edmunds ซึ่งแสดงรายการยานพาหนะที่อยู่ในช่วงราคาที่คุณกำหนดไว้ล่วงหน้า โปรดทราบว่าราคาในหน้าผลลัพธ์จะเปลี่ยนแปลงไปตามระดับการตัดแต่งตัวเลือกภาษีและค่าธรรมเนียมการเงิน

3. ตัดสินใจว่าคุณต้องการเช่าหรือซื้อ

การเช่าซื้อและการซื้อแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียและคุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อาจช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจของคุณว่าควรใช้เส้นทางใด

ตัวอย่างเช่นสัญญาเช่าต้องใช้เงินเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยและมีการจ่ายเงินรายเดือนที่ต่ำ แต่เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงคุณไม่มีรถและจะต้องไปซื้อของอีกครั้ง ในทางกลับกันการซื้อรถในตอนแรกมีราคาแพงกว่าและการชำระเงินต่อเดือนก็สูง แต่เมื่อคุณจ่ายเงินกู้คุณจะเป็นเจ้าของรถที่คุณสามารถขับได้ตราบเท่าที่มันยังวิ่งอยู่

ต่อไปนี้เป็นปัจจัยอีกสองสามประการที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจระหว่างการเช่าซื้อและการซื้อ:

การเช่า

– คุณสามารถขับรถราคาแพงกว่าได้โดยใช้เงินน้อยลง

– คุณสามารถขับรถใหม่ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดได้ทุกๆสองสามปี

– การซ่อมแซมส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้การรับประกันจากโรงงาน

– ไม่มีความยุ่งยากในการแลกเปลี่ยนเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า

การซื้อ

– คุณมีความยืดหยุ่นในการขายรถทุกเมื่อที่คุณต้องการ

– คุณสามารถปรับเปลี่ยนรถให้เข้ากับรสนิยมของคุณได้

– ไม่มีการลงโทษระยะทางหากคุณขับรถมาก

– ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ของคุณจะลดลงในระยะยาวหากคุณผ่อนรถและรักษาไว้สักพัก

4. พิจารณารถคันอื่นในคลาส

คุณมีความคิด (หรือหัวใจ) ของคุณบนรถเฉพาะหรือไม่? นักช้อปหลายคนทำ แต่ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปัจจุบันรถยนต์ใหม่ ๆ มักจะเข้ามาในโชว์รูมอยู่เสมอและเป็นรถที่คุณไม่เคยคิดว่าจะเหมาะกับคุณ Edmunds ช่วยให้คุณค้นคว้าและเปรียบเทียบรถยนต์ที่คล้ายกันเพื่อค้นหารถที่เหมาะกับคุณที่สุด

หากคุณมีรถอยู่แล้วคุณควรตรวจสอบรถรุ่นอื่นที่เทียบเคียงได้ในระดับเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้มองข้ามทางเลือกที่ดีไปกว่านี้ คุณสามารถทำได้โดยเลือกประเภทรถเดียวกันตามที่ระบุไว้ในเครื่องมือค้นหารถของเราและตั้งค่าพารามิเตอร์ที่สำคัญสำหรับคุณ เมื่อคุณได้รับโอกาสที่คุ้มค่าแล้วคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับราคาข้อกำหนดและคุณสมบัติต่างๆได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถเปรียบเทียบรถที่คุณเลือกเพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะได้ง่ายขึ้น

5. ชั่งน้ำหนักต้นทุนการเป็นเจ้าของ

รถบางคันอาจจะซื้อได้ถูกกว่า แต่แพงกว่าในการเป็นเจ้าของ แม้ว่ารถสองคันจะมีราคาเท่ากัน แต่รถคันหนึ่งอาจเสื่อมราคาเร็วกว่าหรือเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าเพื่อประกันและบำรุงรักษา

ก่อนที่คุณจะผูกมัดกับรถยนต์คุณควรประมาณค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของในระยะยาว ซึ่งรวมถึงค่าเสื่อมราคาประกันค่าบำรุงรักษาและค่าน้ำมัน

6. ค้นหารถยนต์สำหรับขาย

วิธีการซื้อรถแบบเก่าให้คุณไปที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตนเองเพื่อดูสินค้าคงคลังและดูว่ารถยนต์มีตัวเลือกที่คุณต้องการหรือไม่ คุณสามารถครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นและประหยัดเงินได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณมีแนวคิดเกี่ยวกับรถที่ต้องการแล้วคุณสามารถดูความพร้อมใช้งานได้อย่างง่ายดาย

หากคุณไม่พบสิ่งที่ต้องการในพื้นที่ใกล้เคียงให้เลือกระยะทางที่มากขึ้นเพื่อค้นหา คุณยังสามารถกรองการค้นหาของคุณเพื่อค้นหารถยนต์ในสีที่ต้องการโดยมีตัวเลือกต่าง ๆ 

7. นัดทดลองขับ

ตอนนี้คุณพบรถที่ดูเหมือนว่ามันอาจจะเหมาะกับคุณแล้วโทรส่งข้อความหรือส่งอีเมลไปที่แผนกอินเทอร์เน็ตของตัวแทนจำหน่ายเพื่อกำหนดวันและเวลาสำหรับการทดลองขับ พนักงานขายทางอินเทอร์เน็ตของตัวแทนจำหน่ายเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยม

การนัดหมายทดลองขับกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะรอคุณอยู่เมื่อคุณมาถึง เราขอแนะนำให้ทดลองขับเกี่ยวกับยานพาหนะสามแบบที่แตกต่างกันเพื่อที่คุณจะไม่ จำกัด ตัวเลือก พยายามกำหนดเวลานัดหมายสองสามครั้งไว้ข้างหลัง มันจะทำให้การเปรียบเทียบรถง่ายขึ้นและให้คุณออกจากตัวแทนจำหน่ายได้อย่างสง่างาม แม้ว่าพนักงานขายจะต้องการคุยหมายเลขหลังทดลองขับ แต่คุณอาจยังไม่พร้อม

8. สิ่งที่มองหาในการทดลองขับ

ตอนนี้คุณพบรถที่ดูเหมือนว่ามันอาจจะเหมาะกับคุณแล้วโทรส่งข้อความหรือส่งอีเมลไปที่แผนกอินเทอร์เน็ตของตัวแทนจำหน่ายเพื่อกำหนดวันและเวลาสำหรับการทดลองขับ พนักงานขายทางอินเทอร์เน็ตของตัวแทนจำหน่ายเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยม: พวกเขาให้ความสำคัญกับผู้ซื้อที่มีข้อมูลข่าวสารมีแนวโน้มที่จะตั้งราคาล่วงหน้ามากกว่าและคุ้นเคย

การนัดหมายทดลองขับกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะรอคุณอยู่เมื่อคุณมาถึง เราขอแนะนำให้ทดลองขับเกี่ยวกับยานพาหนะสามแบบที่แตกต่างกันเพื่อที่คุณจะไม่ จำกัด ตัวเลือก พยายามกำหนดเวลานัดหมายสองสามครั้งไว้ข้างหลัง มันจะทำให้การเปรียบเทียบรถง่ายขึ้นและให้คุณออกจากตัวแทนจำหน่ายได้อย่างสง่างาม แม้ว่าพนักงานขายจะต้องการคุยหมายเลขหลังทดลองขับ แต่คุณอาจยังไม่พร้อม

9. เลือกรถของคุณ

หลังจากทดลองขับรถยนต์หลายคันทางเลือกควรชัดเจน ถ้าไม่ใช่ให้นอนบนนั้น ในตอนเช้าคุณอาจมีคำตอบ หากไม่เป็นเช่นนั้นคุณอาจต้องถอยหลังสองสามก้าวและขับรถให้มากขึ้น จะดีกว่าที่จะใช้เวลาในขั้นตอนการจับจ่ายนานกว่าที่ผู้ซื้อจะสำนึกผิดในภายหลัง

แม้ว่าการตัดสินใจที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ควรตระหนักว่าไม่มีคำตอบที่สมบูรณ์แบบคำตอบเดียว รถยนต์ในปัจจุบันปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม พวกเขาได้รับระยะทางก๊าซที่ดีขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกในราคาประหยัดกว่าในอดีต ในระยะสั้นอาจมีตัวเลือกรถยนต์ที่ดีหลายอย่างและการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคล

สรุป

เมื่อคุณได้ทำการวิจัยแล้วเราหวังว่าจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณพบรถที่ใช่สำหรับคุณแล้วก็ถึงเวลาที่จะเป็นผู้ซื้อรถหรือผู้เช่า นี่คือบทความที่จะนำคุณไปสู่ขั้นตอนการซื้อรถหรือเช่าซื้อรถยนต์ที่แท้จริง

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ

Categories
บทความ

รวม 10 ธุรกิจส่วนตัวน่าทำปี 2024

รวม 10 ธุรกิจส่วนตัวน่าทำปี 2024

รวม 10 ธุรกิจส่วนตัวน่าทำปี

อยากมีธุรกิจส่วนตัว แต่ก็กลัวที่จะล้มเหลว คงเป็นปัญหาสำคัญของมือใหม่หลายคนที่สนใจอยากจะทำธุรกิจส่วนตัว ยิ่งถ้าเทรนด์ของธุรกิจนั้นเปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากกว่าเดิม ดังนั้นคำถามส่วนใหญ่ จึงเป็นคำถามที่ว่า ควรจะทำธุรกิจอะไรถึงจะมั่นคง แล้วเทรนด์ธุรกิจแบบไหนถึงจะมาแรง ลงทุนน้อย หรือสามารถทำคู่กับงานประจำได้ หากคุณกำลังสนใจที่ลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว วันนี้ในบทความของเรา ได้จัดอันดับ 10 ธุรกิจส่วนตัวน่าทำในปี 2020 มาให้แล้ว มาตามไปดูกันเลยว่ามีธุรกิจอะไรบ้าง

สารบัญ : รวม 10 ธุรกิจส่วนตัวน่าทำ

1. ยูทูปเบอร์

สำหรับยุคนี้ YouTube ถือว่าเป็น platform ที่มีบทบาทในชีวิตประจำวันมาก และสามารถสร้างรายได้ให้กับ creator หรือนักสร้างสรรค์ที่สร้างวีดีโอหรือ Content ลงบนช่อง YouTube อย่างมากมาย โดยรายได้ส่วนใหญ่นั้นจะมาจากการได้รับสปอนเซอร์และอีกส่วนหนึ่งมาจากการติดโฆษณาลงในช่องรายการของตัวเอง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบออกกล้อง ชอบสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ๆ รวมถึงชอบแชร์เรื่องราวต่างๆ ของตัวเอง การลองใช้เวลาว่างมาเพื่อเป็นยูทูปเบอร์นั้นอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำให้กลายเป็นธุรกิจ ที่สร้างรายได้ให้กับคุณได้อย่างยั่งยืน

2. Blogger

Blogger ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้และกลายเป็นธุรกิจให้กับคุณได้ หากคุณมีความคิดสร้างสรรค์และชอบที่จะเขียนเรื่องราว ซึ่งรายได้จากการทำบล็อกนั้น สามารถมาจาก 3 ช่องทางด้วยกัน 

  1. การรับสปอนเซอร์เมื่อมีแบรนด์สินค้าติดต่อเข้ามาเพื่อให้เขียนบทความหรือเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์นั้นๆ 
  2. รายได้จากการนำโฆษณาของ Google มาติดลงบนเว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเองที่เรียกว่า Google Ads
  3. รายได้จาก Afiiliate คือการนำลิงค์ของเว็บไซต์โฆษณาต่างๆ มาติดลงบนเว็บไซต์ของเรา เมื่อมีคนคลิกโฆษณาที่ติดในเว็บไซต์ของเรา ก็จะได้รับรายได้จากการคลิกแบนเนอร์โฆษณานั้นๆ

3. สอนหนังสือออนไลน์

ปัจจุบันการเรียนหนังสือไม่ได้มีอยู่แค่ที่โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเสมอไปเราสามารถที่จะรับสอนออนไลน์ผ่านการ Video Call Google hangout Zoom หรือโปรแกรมอื่นๆได้โดยสามารถคิดค่าสอนเป็นรายชั่วโมงหรือรายเดือนก็ได้

4. การทำงานฟรีแลนซ์

การทำงานฟรีแลนซ์เรียกได้ว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับคุณได้อย่างมากมาย และทำให้คุณมีเวลาเป็นอิสระ โดยคุณสามารถเปลี่ยนทักษะที่คุณมี ซึ่งอาจจะมาจากงานประจำหรืองานอดิเรก เช่น การรับเขียนบทความ การทำ Graphic Design การทำการตลาดออนไลน์ การรับรีวิวสินค้า การออกแบบเว็บไซต์ รวมถึงการรับเป็นแอดมินเพจ ก็มีเช่นกัน ลองดูว่าคุณมีความถนัดและความเชี่ยวชาญทางด้านไหน ก็สามารถรับงานเหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเลย

5. เปิดร้านขายของออนไลน์

ยุคนี้ใครๆ ก็เริ่มหันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น หน้าร้านบางครั้งไม่จำเป็นสำหรับผู้บริโภคอีกเสมอไป หากใครสนใจทำธุรกิจการเปิดร้านขายของออนไลน์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ง่าย สะดวกและใช้เงินลงทุนไม่มาก โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะไปเปิดร้านค้าออนไลน์บนช่องทางไหน ไม่ว่าจะเป็นสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง ใช้บริการอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ shopee หรือใช้บริการร้านขายออนไลน์เปิดร้านขายออนไลน์บน Social Media อย่าง Facebook หรือ Instagram ก็ได้

6. นักปรึกษาธุรกิจ

ที่ปรึกษาทางธุรกิจ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสามารถทำรายได้ให้กับคุณได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะในกรณีที่คุณมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ มาอย่างยาวนานรวมถึงเป็นทักษะที่ยัง มีความต้องการในตลาดสูงก็จะยิ่งส่งผลให้มีรายได้มากขึ้นและแทบไม่ต้องลงทุนเลย

7. Personal Trainer

Personal Trainer ถือได้ว่าเป็นอาชีพอิสระที่ กำลังมาแรงและมีรายได้ดี เพราะปัจจุบันใครๆ ก็หันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น ส่งผลให้ ผู้ที่มีความรู้ทางด้านฟิตเนสก็ได้พัฒนาวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลขึ้นมา จนกลายเป็นอาชีพ Personal Trainer ที่ไม่ใช่แค่การแนะนำ ในเรื่องสุขภาพเท่านั้นแต่รวมถึงต้องกระตุ้นแรงจูงใจ และเป็นผู้นำทางด้านการรักสุขภาพด้วย

8. ช่างภาพท่องเที่ยว

ภาพท่องเที่ยวถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับคนที่สนใจอยากมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยสามารถสร้างได้หลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นการรับถ่ายรูป การถ่ายภาพลงบล็อกของตัวเองหรือแม้แต่การถ่ายภาพแล้วนำไปขายบนเว็บ Stock ต่างๆ ซึ่งช่องทางเหล่านี้ล้วนแต่สร้างรายได้ให้กับช่างภาพในสายนี้ได้ทั้งสิ้น

9. การเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือ Drop shipping

การเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ถือว่าเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีความน่าสนใจ สำหรับคนที่ใฝ่ฝันอยากจะมีธุรกิจส่วนตัว เพราะลงทุนไม่มาก บางทีไม่ต้องลงทุนเรื่องค่าสินค้าเองเลย โดยสามารถนำสินค้าจากผู้ผลิตไปขายและเมื่อขายได้ ก็ให้ทางผู้ผลิตจัดส่งสินค้า รายได้ก็หักส่วนต้นทุนคืนผู้ผลิตไปที่เหลือเป็นกำไรของเรา หรือในบางรายอาจจะมีการจำหน่ายสินค้าให้ในราคาต้นทุน โดยตัวแทนจำหน่ายจะได้รับในราคาพิเศษมากกว่าผู้อื่นและนำไปบวกกำไรขายได้ตามปกติ

10. เปิดร้านอาหารกล่องออนไลน์เดลิเวอรี่

อาหารกล่องออนไลน์ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่น่าจับตาและสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารกล่องแบบอาหารคลีน อาหารกล่องที่ส่งรายเดือน รายวัน หรืออาหารกล่องแบบแพ็คที่สามารถนำแช่ช่องฟรีซแล้วนำมาอุ่นกินได้ หากคุณมีทักษะทางด้านการทำอาหารเป็นอย่างดี นี่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ไม่ควรพลาด

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ

Categories
บทความ

วิธีเลือกผู้รับเหมา เกณฑ์การเลือก ข้อควรระวัง ปี 2024

วิธีเลือกผู้รับเหมา เกณฑ์การเลือก ข้อควรระวัง ปี 2024

วิธีเลือกผู้รับเหมา เกณฑ์การเลือก ข้อควรระวัง

ปัญหาของคนสร้างบ้าน หรือซ่อมแซมบ้าน ปรับปรุงรีโนเวท มักจะเจอปัญหาใหญ่ นั่นคือการเลือกผู้รับเหมา เพราะบางคนไม่รู้จักผู้รับเหมาเป็นการส่วนตัว หรือบางคนอาจจะใช้วิธีการบอกปากต่อปาก ซึ่งในบางครั้งก็ได้ผู้รับเหมาไม่ดี ทิ้งงานหนีไป หรือ ได้ผู้รับเหมาที่ไม่มีความชำนาญ รวมทั้งอาจจะเคยเจอผู้รับเหมาแบบรับช่วงต่อ คือมาในลักษณะรับเหมางาน แต่หาช่างมาทำไม่ได้มีทีมงานเป็นของตัวเอง แต่ไม่ว่าคุณ เลือกผู้รับเหมาในแบบไหน สิ่งที่สำคัญคุณควรจะต้องรู้ก่อนว่า จะตรวจสอบและมีเกณฑ์การเลือกผู้รับเหมาอย่างไรถึงจะได้ผู้รับเหมาที่ตรงกับงาน และได้งานออกมามีคุณภาพไม่มีปัญหาตามหลัง

สารบัญ : วิธีเลือกผู้รับเหมา เกณฑ์การเลือก ข้อควรระวัง

เลือกผู้รับเหมาจากงานที่มีประสบการณ์ผ่านมา

ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ไม่ว่าคุณจะเลือกผู้รับเหมาในรูปแบบของบริษัทโดยตรง หรือผู้รับเหมาส่วนบุคคลคุณจะต้องรู้ก่อนว่าผู้รับเหมาที่คุณสนใจนั้น เคยผ่านการทำงานในแบบที่คุณต้องการมาหรือไม่
คุณสามารถตรวจสอบได้โดยการพูดคุย และขอดูตัวอย่างผลงานที่ผ่านมา หากเป็นผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์มีคุณภาพ และมีความชำนาญผู้รับเหมา กลุ่มนี้จะมีการเก็บ Profile งานไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายรายละเอียดต่างๆ รวมถึงสามารถให้คุณเห็นผลงานจริงที่ทำมาได้

ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ

ไม่ว่าคุณจะเลือกในลักษณะผ่านอินเทอร์เน็ต จากการประกาศของบริษัทรับเหมาบนเว็บไซต์ หรือ
จากคำแนะนำตามกลุ่มต่างๆ คุณก็จะต้องดูให้ละเอียดว่าผู้รับเหมาที่คุณสนใจนั้นมีประสบการณ์จริง
ผู้ที่เคยจ้างงานมา comment แนะนำอะไรกันไว้บ้าง เพราะในยุคปัจจุบันการเลือกหาผู้รับเหมามีหลากหลายวิธี ทั้งผ่านอินเตอร์เน็ตหรือจากคำแนะนำอย่างที่เราได้เกริ่นไว้ข้างต้น 

นี่เป็นจุดสังเกต 2 ข้อใหญ่ที่คุณควรจะต้องรู้ว่าหากต้องการผู้รับเหมา จะดูอย่างไร มีจุดสังเกตุใหญ่อะไรบ้างที่นี้มาต่อกันที่เรื่องของรายละเอียด ในการจ้างเหมางาน หากต้องการจะได้ผู้รับเหมาที่ดีจริงๆรายละเอียดปลีกย่อยก็ยังมีในจุดที่น่าสนใจ

การประเมินราคา หรือ ประเมินระยะเวลาการจ้างงาน

ก่อนการตกลงทำสัญญาหรือจะเลือกผู้รับเหมาในแต่ละงานนั้นควรจะต้องพูดคุยประเมินข้อมูลกันก่อนไม่ว่าจะเป็นการดูพื้นที่จริงหน้างาน การหาข้อมูลของวัสดุ การเลือกวิธีการทำงานในแบบต่างๆ เพราะในงานรับเหมานั้นจะหมายถึงงานในวงกว้างไม่ว่าจะเป็นการสร้างใหม่การซ่อมแซมปรับปรุงดังนั้นทางผู้รับเหมารายไหนตกลงราคารับงานโดยไม่มีการประเมินงานในเบื้องต้น ไม่มีการประเมินราคา หรือเข้ามาดูหน้างานแนะนำว่าอย่าเลือกใช้บริการจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจจะได้ผู้รับเหมาเก๊และไม่มีความชำนาญในการทำงานหรือไม่มีทีมงานที่พร้อมจะลงงานจริง

การทำสัญญารับงาน

จุดนี้จะเป็นจุดที่พลาดไม่ได้เพราะจะต้องดูในรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขการจ้างงานระยะเวลาการทำงานในแต่ละช่วง ซึ่งจะต้องดูให้ละเอียด แม้ว่าในสัญญาอาจจะต้องมีการยืดหยุ่นทั้งผู้รับเหมาและผู้ว่าจ้างเพื่อเผื่อถึงปัญหาในอนาคตก็จะต้องดูให้ละเอียดและไม่เสียเปรียบกันทั้งสองฝ่าย

จำนวนเงินในการจ้างเหมางาน

ส่วนนี้ก็จะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของการจ่ายเงิน ว่าจะจ่ายลักษณะไหนโดยส่วนใหญ่แล้วจะจ่ายกันเป็นช่วง ว่าเมื่อดำเนินงานไปถึง ส่วนไหนจะต้องจ่าย เท่าไหร่จะไม่มีการจ่ายทีละครึ่ง หรือจ่ายรวดเดียวก่อนทำงานหรือหลังจบงาน

การปรับปรุงแก้ไขงาน

ในการทำสัญญารับเหมางานทุกประเภท จะต้องมีระบุในเรื่องของการแก้ไขปรับปรุง หากไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ ก็จะต้อง แก้ไข กันตามสัญญาที่ระบุ ซึ่งผู้จ้างก็จะต้องดูรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆรวมทั้งตกลงหรือเพิ่มเติมในสัญญากันให้เรียบร้อย

การรับประกันหลังจบงาน

การรับประกันผลงานหลังจากเสร็จสิ้นงานรับเหมาจะต้องมีไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของการเหมาสร้างใหม่หรือปรับปรุงซ่อมแซม จะต้องมีการรับประกันผลงานอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 6 เดือนถึง 2 ปีขึ้นอยู่กับว่าเป็นงานในลักษณะไหน

สรุป

นี่คือจุดที่ควรจะต้องใส่ใจระมัดระวังกันเป็นพิเศษ และยังมีรายละเอียดอื่นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพวัสดุตรวจสอบราคาซึ่งผู้จ้างเหมาจะต้องมีข้อมูลในส่วนนี้บ้างรวมทั้งตรวจสอบในรายละเอียดวัสดุต่าง ๆ ที่ผู้รับเหมาเสนอมารวมทั้งมีการเข้าไปตรวจงานเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหาได้วัสดุตรงตามความต้องการจริง ๆ และผลงานในแต่ละช่วงเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้

แต่หากคุณกำลังมองหาผู้รับเหมา และอยากได้ผู้รับเหมามีประสบการณ์ มีคุณภาพลองเอาคำแนะนำของเราในวันนี้ไปใช้ดูเพื่อที่จะได้เป็นแนวทาง ในการเลือกผู้รับเหมาให้ตรงกับงานที่คุณกำลังจะจ้าง หรือจะใช้บริการผู้รับเหมาที่มีคุณภาพที่เราแนะนำ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์นี้ที่จะรวบรวมผู้รับเหมา ในสายงานต่างๆไม่ว่าจะเป็น งานก่อสร้าง งานฐานราก ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และอื่นๆ ที่จะมีผู้รับเหมาคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือมีผลงานยืนยัน และรับประกันหลังการจ้างงาน 

เพื่อให้คุณสะดวกสามารถเลือกเปรียบเทียบตามคำแนะนำของเรา รวมทั้งยังสามารถเลือกสอบถามดูสัญญาหรือดูข้อมูลในเชิงลึกเพิ่มเติมจากผู้รับเหมาที่เราแนะนำ รวบรวมไว้ในหน้าเว็บไซต์นี้ได้ ที่นี่จะอำนวยความสะดวกให้กับคุณในด้านข้อมูลคำแนะนำเคล็ดลับเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับการจ้างผู้รับเหมาการหาข้อมูลในส่วนของงานรับเหมาต่างๆที่นี่มีให้ครบจบในเว็บไซต์เดียว

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ

Categories
บทความ

7 สิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อบ้านสำหรับชาวออฟฟิศ

7 สิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อบ้านสำหรับชาวออฟฟิศ

การกู้ซื้อบ้าน

ขึ้นชื่อว่า ‘บ้าน’ เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากจะมีเป็นของตัวเองให้ได้สักหลัง เพราะนอกจากจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว บ้านยังเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย รวมทั้งยังสามารถเป็นสินทรัพย์ที่ทำเงินได้ในอนาคตอีกด้วย เอาเป็นว่ามาลองดู 7 สิ่งที่ควรรู้สำหรับชาวออฟฟิศที่วางแผนซื้อบ้านกันดีกว่า

สารบัญ : 7 สิ่งที่ควรรู้ในการกู้ซื้อบ้านสำหรับชาวออฟฟิศ

1. คำนวณดูว่าสามารถกู้ได้ประมาณเท่าไร

ก่อนอื่นเลยให้ลองคำนวณกันดูก่อนว่า คุณจะสามารถกู้เงินได้ในอัตราประมาณเท่าไร ซึ่งก็จะมีสูตรในการคำนวณอย่างคร่าว ๆ คือ (รายได้ต่อเดือน) x (60 เท่าของรายได้) = (ราคาบ้านที่กูซื้อได้) ยกตัวอย่างเช่น เงินเดือน 20,000 บาท x 60 เท่า = 1,200,000 บาท ซึ่งนี่ก็คือยอดที่จะสามารถกู้ได้จากการคำนวณ และเป็นจำนวนเงินที่ยังไม่ได้มีการหักลบจากภาระหนี้สินอื่น ๆ เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบัตรเครดิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางธนาคารจะมีการปรับขยับเพิ่ม หรือลดเพิ่มอีกครั้ง จากการคำนวณด้วยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาของธนาคารอีกทีด้วย

2. ต้องมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งด้วย

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการพิจารณาของทางธนาคารก็คือ วินัยทางการเงินของผู้กู้ เพราะหากคุณเป็นคนที่มีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง โอกาสในการพิจารณาอนุมัติเงินกู้สำหรับซื้อบ้าน ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่การนำเงินเก็บจำนวนหนึ่ง มาใช้เป็นเงินดาวน์ เพื่อลดระยะเวลา และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็จะเพิ่มโอกาสในการได้บ้านในฝันง่ายขึ้นนั่นเอง

3. เตรียมบัญชีธนาคารให้สวยไว้ก่อน

ในการยื่นกู้นั้น ทางธนาคารก็จะมีการพิจารณาจากบัญชีเงินฝากย้อนหลังด้วย ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะพิจารณาจากช่วงระยะเวลา 6 เดือนย้อนหลัง ซึ่งหากเป็นไปได้ ในช่วง 6 เดือนนี้เจ้าของบัญชีจะต้องมียอดการโอน-ถอนที่ชัดเจน และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีการถอนจนหมดบัญชีอยู่เสมอ หรือหากใครที่มีรายได้เสริม ก็พยายามให้รายได้เหล่านั้นโอนเข้าบัญชีสำหรับการกู้เงินไว้ก่อนดีที่สุด

4. ปิดบัญชีหนี้สินให้หมด หรือเหลือน้อยที่สุด

สำหรับใครที่มีบัญชีหนี้สินอยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่จะกู้เงินซื้อบ้านผ่านก็จะลดน้อยลง ซึ่งทางธนาคารจะเลือกอนุมัติให้กับคนที่มีบัญชีหนี้สินอยู่น้อย หรือไม่มีเลยมากกว่า เพราะฉะนั้นหากคิดจะวางแผนซื้อบ้านแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะพยายามปิดหนี้สินให้มากที่สุด หรืออย่างน้อยก็อาจจะเหลือเพียงแค่บัญชีที่มีหนี้อยู่เล็กน้อย และผ่อนต่อเดือนในอัตราที่ไม่สูงเกินไป

5. หากมีหนี้ ต้องชำระหนี้ให้ตรงอยู่เสมอ

อีกหนึ่งหัวใจที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสกู้เงินซื้อบ้านก็คือ ต้องพยายามชำระหนี้ให้ตรงเวลาอยู่เสมอ เพราะทางธนาคารจะมีการตรวจสอบ ‘เครดิตบูโร’ ของผู้กู้ด้วย โดยจะทำการตรวจสอบย้อนหลังประมาณ 2 ปี ซึ่งถ้าหากในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีการชำระหนี้ที่เรียกได้ว่า ตรงเวลามาโดยตลอด ก็จะเป็นการสร้างเครดิตให้กับผู้กู้ ซึ่งแน่นอนว่า โอกาสที่จะได้กู้ผ่านตามที่หวังไว้ก็มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว

6. พยายามปิดบัตรเครดิตไปบ้าง

แน่นอนว่าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศแล้ว การมีบัตรเครดิตติดตัวไว้ จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับการใช้จ่ายได้มากทีเดียว แต่สำหรับบางคนแล้ว ก็ยึดติดในเรื่องของการใช้จ่ายบัตรเครดิตมากจนเกินไป จนเรียกได้ว่ามีบัตรเครดิตติดกระเป๋ามากกว่า 3 ใบ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ธนาคารมองว่าคุณเป็นคนที่ใช้จ่ายสูง หรือเกินจากรายรับได้ และก็ทำให้การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ของคุณ ลดลงไปด้วย ทางที่ดีแล้ว ควรจะปิดบัตรเครดิตออกไปบ้าง เมื่อต้องกู้เงินในการซื้อบ้าน หรือหากต้องมีติดตัวไว้ ก็ไม่ควรที่จะเกิน 1-2   ใบ เท่านั้น

7. เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม

ข้อสุดท้าย ที่เรียกว่าเป็นวิธีกู้ซื้อบ้านที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญก็คือ ศึกษาข้อกำหนด และเงื่อนไขของทางธนาคาร รวมทั้งเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน หรือหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของรายได้พิเศษต่าง ๆ ซึ่งการเตรียมหลักฐานมาครบถ้วน และพร้อมในการยื่นกู้ จะช่วยให้ได้รับการพิจารณาที่รวดเร็ว และง่ายขึ้น ที่สำคัญคือไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหา หรือจัดเตรียมเอกสารจนรู้สึกว่ายุ่งยากเกินไปด้วย ฉะนั้นเตรียมให้พร้อมก่อนยื่นกู้ดีที่สุด

สรุป

ทั้ง 7 ข้อนี้ก็เป็นวิธีซื้อบ้าน ที่เรียกได้ว่าชาวออฟฟิศทุกคนต้องทราบ รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะการที่จะมีบ้านสักหลัง ไม่ใช่เพียงแค่พร้อมในเรื่องของการมีรายได้สำหรับผ่อนบ้านเท่านั้น แต่เอกสารและการติดต่อกู้ยืมจากธนาคารก็เป็นสิ่งสำคัญที่ จะช่วยสร้างโอกาสในการได้บ้านในฝันได้ดีที่สุดเช่นเดียวกัน

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ

Categories
บทความ

9 วิธีซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน

9 วิธีซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน

วิธีการเลือกซื้อคอนโด

คอนโดนับว่าเป็นอีกหนึ่งที่อยู่อาศัย ที่เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันมากทีเดียว นั่นก็เพราะทำเลของคอนโดส่วนใหญ่ จะมีความสะดวกสบายในเรื่องของการเดินทาง รวมทั้งยังมีแหล่งช้อปปิ้งอย่าง ห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารมากมาย แต่การที่จะซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน ก็มีสิ่งสำคัญที่ควรทราบเช่นเดียวกัน ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีเรื่องไหนกันบ้าง

สารบัญ : 9 วิธีซื้อคอนโดให้ถูกใจ และอยู่ได้นาน

1. พิจารณาจากทำเลเป็นอันดับแรก

เหนือสิ่งอื่นใดเลย ในการคิดจะซื้อคอนโดแล้ว สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเอาไว้ก่อนเลยก็คือ เรื่องของทำเลที่ตั้ง เพราะคอนโดที่จะช่วยสร้างความรู้สึกสบายใจ และสามารถอยู่ได้นานก็คือ คอนโดที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน หรืออยู่ใกล้กับเส้นทางเดินรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น BTS หรือ MRT ก็ตาม ลองมองภาพรวมไกล ๆ ว่าหากต้องทำงานที่เดิมยาว ๆ การมีเส้นทางในการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และง่าย จะช่วยสร้างความสุขให้กับการทำงานได้ดีกว่า

2. เข้าไปดูถึงโครงการด้วยตัวเอง

แม้ว่าจะเลือกซื้อคอนโดที่มาจากโครงการชั้นนำ หรือเป็นที่รู้จักมากแค่ไหน ก็ไม่ควรที่จะตัดสินจากการเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นโครงการที่เพิ่งเปิดใหม่ หรือยังขายไม่หมด ก็ควรจะเดินทางไปสำรวจดูโครงการด้วยตัวเอง ทั้งรูปแบบห้องพัก หรือทำเลพื้นที่ใกล้เคียง

3. การเลือกห้องก็สำคัญ

เมื่อต้องทำการเลือกห้องพัก สิ่งสำคัญก็คือ ต้องคำนึงถึงว่าการนอนในคอนโดนั้นจะมีผู้ร่วมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งคอนโดหลาย ๆ ที่ก็ยังอยู่ใกล้กับพื้นที่สัญจร ทำให้มีเรื่องของมลภาวะรบกวนได้เช่นเดียวกัน ควรเลือกห้องพักที่อยู่สูงกว่าชั้นที่ 1-2 เพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะที่รบกวน และห้องนอนไม่ควรที่จะอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนในเวลาพักผ่อนนั่นเอง

4. วางแผนทางการเงินให้ดี

เพื่อเพิ่มโอกาสในการพิจารณาสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้อง กู้เงินจากทางธนาคาร สิ่งสำคัญก็คือ ควรจะวางแผนการเงิน และมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง เพื่อใช้เป็นเงินดาวน์ในการซื้อคอนโด ซึ่งการวางแผนนี่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้เงินได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือยังสามาถดาวน์ในราคาที่คุ้มค่า และผ่อนต่อเดือนเป็นจำนวนเงินที่น้อยลงด้วย โอกาสที่จะปลดหนี้คอนโดให้หมดเร็วขึ้นก็ตามมา

5. พิจารณาสิทธิและโปรโมชั่นของแต่ละโครงการ

หากต้องเลือกซื้อคอนโดจากหลายโครงการแล้วล่ะก็ ให้พยายามมองหาโครงการที่มีสิทธิประโยชน์ หรือความคุ้มค่าจากโปรโมชั่นมาใช้ประกอบการพิจารณา เพราะสิทธิประโยชน์เหล่านี้ จะช่วยให้การซื้อคอนโด้รับความคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งโปรโมชั่นที่ว่านี้ก็มี ทั้งของแถมที่อาจมาในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ หรือผ่อนชำระแบบไม่มีดอกเบี้ยจำนวน 10 เดือน เป็นต้น รวมทั้งโปรโมชั่นอยู่ฟรีไม่ต้องผ่อนตามระยะเวลากำหนดของแต่ละโครงการอีกด้วย

6. เตรียมเงินให้พร้อมสำหรับค่าจอง

สำหรับใครที่มาถึงขั้นตอนของการ จองห้องเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับจำนวนเงินที่จะใช้ในการจ่ายค่าจองด้วย ซึ่งในแต่ละโครงการอาจจะมีค่าจองที่ต่างกันออกไป แต่จะอยู่ระหว่าง 5,000 – 50,000 บาท รวมทั้งบางแห่งก็ยังมีในส่วนของค่าทำสัญญาอีกด้วย โดยค่าทำสัญญานั้นจะมีอยู่ที่ระหว่าง 50,000 – 100,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าของแต่ละโครงการด้วย

7. ห้องรีเซลก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ในแต่ละโครงการ จะต้องมีห้องที่เรียกว่า ห้องรีเซล ซึ่งมันก็คือห้องที่เจ้าของมักจะไม่พร้อมในการโอน อาจจะด้วยภาระค่าใช้จ่าย หรือปัญหาส่วนตัว ทำให้ห้องรีเซลเหล่านี้ ถูกขายต่อในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม ทำให้มีโอกาสที่จะได้อยู่ในคอนโดที่ชอบ โครงการที่ใช่ ในราคาที่คุ้มค่ากว่า โดยทั่วไปแล้ว ห้องรีเซลมักจะมีมากในโครงการที่มีการสร้างเสร็จแล้ว และมียอดจองเต็มแล้วนั่นเอง

8. ใช้วิธีกู้เงินเมื่อใกล้ถึงวันโอน

สำหรับช่วงเวลาที่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ และยังไม่พร้อมโอนให้กับเจ้าของห้อง ให้ทำการผ่อนดาวน์ไปก่อน โดยการผ่อนดาวน์นี่จะต้องผ่อนชำระพร้อมกับการจ่ายค่าทำสัญญา และค่าจอง ซึ่งมูลค่าก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ แต่เมื่อโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ พร้อมโอนแล้ว ให้ทำการกู้เงินหรือจ่ายเงินสดตามจำนวนได้เลย จะช่วยให้คุ้มค่ากว่าในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยได้

9. อย่าลืมตรวจสอบห้องก่อนโอน

เหนือสิ่งอื่นใด ทางเจ้าของห้องก็ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบห้องให้เรียบร้อย ก่อนที่จะทำการโอน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะดูว่ามีจุดไหน ส่วนใด ภายในห้องที่ไม่สมบูรณ์ หรือผิดไปจากแบบหรือไม่ เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่า เมื่อเข้าพักอาศัยแล้วจะไม่มีข้อผิดพลาดมากวนใจเจ้าของห้อง หรือต้องเสียเงินเพิ่มเติมในการปรับปรุงห้องในอนาคตนั่นเอง

สรุป

ทั้ง 9 ข้อนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่เรียกได้ว่าคนอยากมีคอนโด ‘ต้องรู้’ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุดในการเลือกซื้อคอนโดแล้ว ยังเป็นผลดีที่จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับคอนโดได้ในอนาคต คราวนี้ไม่ว่าจะปล่อยเช่า หรือขาย ก็ได้ราคาที่สูงกว่าเดิมอย่างแน่นอน

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ

Categories
บทความ

วิธีการเลือกหูฟังไร้สาย หูฟังบลูทูธ

วิธีการเลือกหูฟังไร้สาย หูฟังบลูทูธ

วิธีการเลือกหูฟัง

หูฟังไร้สายเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับการออกกำลังกายการเดินทางหรือการฟังปกติโดยไม่พันกันในขณะที่เดินไปรอบ ๆ มีหลายรุ่นที่แตกต่างกันในตลาดที่จำนวนจุดราคาที่แตกต่างกัน เราได้พิจารณาหูฟังที่ดีที่สุดในตลาดเพื่อหาประเด็นหลักที่ต้องพิจารณาเมื่อคุณเลือกหูฟังไร้สายหรือบลูทูธ

สารบัญ : วิธีการเลือกหูฟังไร้สาย หูฟังบลูทูธ

คุณภาพเสียง

สิ่งนี้จะเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญที่สุดเสมอเมื่อคุณเลือกหูฟังทุกประเภท เป็นความคิดที่ดีที่จะตรวจสอบคุณภาพเสียงสำหรับเสียงเบสเสียงแหลมและเสียงกลางและคุณภาพเสียงที่ถืออยู่ในระดับที่สูงขึ้นเนื่องจากหูฟังบางรุ่นสามารถจัดการเสียงแหลมได้ดี แต่ไม่ส่งเสียงเบสอย่างชัดเจน เท่าที่ควร เท่าที่คุณจะได้รับสิ่งที่คุณจ่ายเพราะคุณจะได้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมในหูฟังไร้สาย

ฟังชั่นตัดเสียงรบกวน

หูฟังบลูทูธ ไร้สายที่มีคุณสมบัติการตัดเสียงรบกวนจะไม่มีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ แต่แน่นอนว่าการฟังเพลงของคุณในสาธารณะหรือในพื้นที่สาธารณะที่วุ่นวายเมื่อคุณสามารถป้องกันเสียงรบกวนรอบตัวคุณได้ โดยมีไมโครโฟนในตัวรอบหูฟังที่รับเสียงรบกวนจากพื้นหลังและปรับเสียงตามลำดับโดยอัตโนมัติ หากคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังการมีฟังชั่นนี้ติดตัวถือว่าเป็นข้อดีอย่างมากในการใช้งาน

หูฟังตัดเสียงรบกวนบางตัวใช้วิธีการอันชาญฉลาด เช่น มีการลดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดทั้งที่มีและไม่มีการเล่นเพลงดังนั้นคุณสามารถใช้หูฟังเหล่านี้เพื่อป้องกันเสียงรบกวนรอบข้างโดยไม่ต้องเปิดเพลงของคุณเอง หากคุณต้องการได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณชั่วคราว

สไตล์ของหูฟัง

ทางเลือกส่วนตัวของคุณไม่ว่าคุณจะชอบหูฟังแบบใส่ในหู, หูฟังแบบครอบหูขนาดใหญ่หรือเอียร์บัดหูฟังก็จะเป็นตัวกำหนดว่าหูฟังไร้สายแบบใดที่เหมาะกับคุณที่สุด เช่นคุณสามรถหาหูฟังชนิดใส่ในหู หรือ in-ear  มาพร้อมกับครีบหูเสริมพิเศษที่เกี่ยวหูด้านหลังของคุณเพื่อป้องกันไม่ให้ตกหล่นหรือหายถ้ามันออกมา

หากหูฟังของคุณไม่ได้เป็นสไตล์ของคุณมีหูฟังชนิดใส่ในหู แต่เป็นแบบครอบหู หรือ over-ear หูฟังจะมีลักษณะทั่วทั้งซึ่งดีสำหรับการตัดเสียงรบกวน แต่สามารถทำให้หนักกว่าหูฟังในหู หรือ in-ear

แบตเตอรี่

หากคุณเดินทางระยะไกลหรือออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานแบตเตอรี่จะมีความสำคัญมาก คุณสามารถใช้หูฟังไร้สายพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 20 ชั่วโมง หรือ มากถึง 30 ชั่วโมงและ 25 ชั่วโมงตามลำดับ

เป็นที่น่าสังเกตว่าหูฟังบางตัวที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นกว่าจะสามารถชาร์จได้เร็ว เช่น Apple Airpods มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดเพียง 5 ชั่วโมง แต่สามารถรับเพิ่ม 3 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียง 15 นาที หูฟังไร้สายส่วนใหญ่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบมีสายรวมถึง 

ดีไซน์

ดูดีไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ไม่มีการปฏิเสธว่าหูฟังไร้สายบางรุ่นได้รับการออกแบบที่ดีกว่าเจ้าอื่น หูฟังหรูหราที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยมจะเพิ่มระดับของการผ่อนคลายและเติมเต็มประสบการณ์การฟังของคุณบ้างก็ทำจากหนังแท้ หรือ ใช้ชิ้นส่วนโลหะเพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับตัวหูฟัง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าหูฟังที่ถูกออกแบบมานั้นประทับใจกับคนใช้หรือเปล่า นอนเหนือจากนี้ หูฟังไร้สายยังมีกลไกที่พับเก็บได้เพื่อรูปร่างและขนาดที่กะทัดรัดยิ่งขึ้นสำหรับการบรรจุ กับกระเป๋า หรือ เคสต่างๆ

ทำมาเพื่อออกกำลังกาย

ผู้ฟังที่ใช้หูฟังเพื่อเล่นกีฬาและออกกำลังกายมักจะสนใจหูฟังที่มีคุณสมบัติเป็นมิตรกับกีฬา เช่น มาพร้อมกับปลายหูหลายขนาดเพื่อให้คุณสามารถค้นหาหูฟังที่สวมใส่สบายที่สุดโดยไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยและเป็นสิ่งที่ป้องกันเหงื่อได้ทั้งหมด การควบคุมที่ใช้งานง่าย

ในบางหูฟัง มีไมโครโฟนภายนอกซึ่งคุณสามารถเปิดเพื่อฟังเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างง่ายดายเช่นคำแนะนำจากโค้ชของคุณและแอพที่ใช้งานร่วมซึ่งให้คำแนะนำและกำลังใจระหว่างการวิ่งของคุณ

น้ำหนัก

ข้อกังวลสุดท้ายคือน้ำหนักของหูฟังของคุณ หากคุณกำลังฟังเป็นระยะเวลานานหูฟังแบบครอบหูและหูอาจทำให้คุณหนัก หูฟังไร้สายบางตัวมีน้ำหนักเบากว่าหูฟังอื่น ๆ ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 100 กรัมก็สามารถส่งกับการฟังในระยะยาวไม่น้อยเนื่องจากน้ำจะกดทับบริเวณหัวด้านบนได้ 

สรุป

ปัจจัยหลักของผู้สนใจซื้อหูฟังหลายๆคน  มีในใจลึกๆแล้วละว่าจะต้องเลือกหูฟังแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวเอง ดังนั้นเราควรจะสังเกตข้อดี และ ข้อเสียของแต่ละแบรนด์ รวมถึงแบบไหนเข้ากับไลฟสไตล์เรามากที่สุด

จัดทำโดย ทีมงาน thTop10.com

ทีมงาน thTop10.com เป็นทีมนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนานในการครอบคลุมในเรื่อง ธุรกิจ การเงิน ผลิตภัณฑ์ และ บริการของผู้บริโภค

รีวิวที่น่าสนใจ
บทความเพื่อคุณ

สำรวจหมวดหมู่ thTop10.com เพิ่มเติม

Copyright @2020 ALL TEN MARKET  Co., Ltd. All right reserved

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจอย่างมั่นใจทางออนไลน์ เว็บไซต์นี้มีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย 

รายละเอียดบางอย่างจำกัดเฉพาะราคาและข้อเสนอพิเศษมีให้กับเราโดยตรงจากพันธมิตรของเราและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า แม้จะมีการวิจัยอย่างพิถีพิถันแต่ข้อมูลที่เราแบ่งปันนั้นไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำหรือการคาดการณ์ทางกฎหมายหรือวิชาชีพ